วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2554

วิธีการติดตั้ง OrangeHRM


หลังจากคราวที่แล้วได้ทำความรู้จักกับ OrangeHRM ไปแล้ว ครั้งนี้จะมาแนะนำวิธีการติดตั้ง Software OrangeHRM กันนะครับ


1. เข้าไปที่เว็บไซต์ http://www.orangehrm.com/
2. จะมี Pop-up ขึ้นมา ให้เลือก Free Open Source Solution



3. เลือก Tab ด้านบนที่ชื่อว่า Download
4. เลือกที่ EXE for Windows


5. หลังจากนั้นจะมี Pop-up ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ให้กด skip
6. ให้คลิ๊กที่คำว่า start downloading จะพบว่ามี Pop-upขึ้นมา ให้กรอกชื่อ นามสกุล E-mail และประเทศลงไปแล้วกดที่ปุ่ม Download รอสักครูเพื่อทำการ Download






7. เมื่อดาวน์โหลดโหลดมาเรียบร้อยแล้วให้ Run file ที่ชื่อว่า orangehrm-2.6.11 ครับ
8. กด next ดังรูปข้างล่าง


9. กด I Agree ครับ


10. หน้าต่างนี้จะเป็นการแสดงองค์ประกอบต่างๆ ที่ต้องการจะติดตั้งลงไป ให้กด Next เลยครับ


11.หน้าต่างนี้เป็นการกำหนด Username และ Password ของ Admin โดยรหัสผ่านต้องมีอย่างน้อย 5 ตัวขึ้นไป เมื่อกรอกเสร็จเรียบร้อยแล้วกด Next เลยครับ


12. หน้าต่างนี้จะแสดง Destination Folder ที่ต้องการติดตั้งโปรแกรมลงไป จากนั้นกด Install เพื่อติดตั้งเลยครับ แล้วก็รอจนติดตั้งเสร็จสมบูรณ์



เป็นอันว่าเสร็จสิ้นสำหรับการติดตั้ง Software OrangeHRM ครั้งต่อไปนี้เรามาดูกันว่า OrangeHRM มันใช้งานอย่างไร แล้วมันสามารถทำอะไรได้บ้างครับ



วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2554

OrangeHRM คืออะไร?

เรามาทำความรู้จักกันว่า OrangeHRM คืออะไร?

OrangeHRM คือซอฟต์แวร์หรือเครื่องมือที่เขียนขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ทำการจัดการเกี่ยวกับทรัพยากรของมนุษย์ หรือช่วยบริหารงานบุคคลภายในองค์กร อีกทั้งยังมีบริการที่ง่ายต่อการเข้าถึงของข้อมูล ส่วนซอฟต์แวร์ที่มีลักษณะการทำงานคล้ายกับ OrangeHRM ตัวอย่างเช่น Innova, PayRoll, SoftControl ซึ่งซอฟต์แวร์เหล่านี้จะถูกพัฒนาโดยต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้มีราคาค่อนข้างแพง ส่วนที่แนะนำ OrangeHRM นั้น เพราะว่ามีการทำงานในลักษณะเดียวกันและยังมีราคาที่ถูกกว่าด้วย

OrangeHRM จะทำงานบนพื้นฐานของ modular โดยประกอบด้วยการทำงานแต่ละ module ดังนี้

1. Admin Module
จะทำหน้าที่จัดการข้อมูลต่างๆ ซึ่งมีสิทธิในการทำงานสูง ครอบคลุมถึงระดับข้อมูลบริษัท โครงสร้างต่างๆขององค์กร อัตราการจ่ายเงินค่าจ้างรวมถึงการกำหนดสิทธิ์ให้แก่ผู้ใช้งานในระบบ

2. PIM Module
module นี้ใช้จัดการข้อมูลของบุคลากรทั้งหมด รายละเอียดส่วนตัวของบุคลากร ทั้งข้อมูลส่วนตัว ภาพบุคคลและข้อมูลด้านตำแหน่งการทำงาน

3. Employee Self Service Module (ESS)
ใช้เพื่อเรียกดูข้อมูลส่วนตัวของตนเอง และการดำเนินการส่วนบุคคล

4. Leave Module
ใช้กำหนดประเภท รูปแบบและข้อมูลของการลา โดยบุคลากรสามารถขอส่งแบบ form การลาภายในระบบนี้ได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เอกสาร

5. Time Module
ใช้เช็คเวลาการทำงานของพนักงานในบริษัท คือการลงชื่อเข้าและการลงชื่อออก รวมถึงระยะเวลาของโปรเจ็คงานที่ได้รับทำมา

6. Report Module
สามารถเข้าถึงรายงานและกำหนดรูปแบบของรายงานได้โดยเลือก Optional และเลือกช่วงของข้อมูล โดยกำหนดระยะเวลาวันเดือนปีให้ครอบคลุมกับความต้องการ จากนั้นจึงเรียกข้อมูลออกมา

7. BUG Tracker
module นี้ใช้แสดงข้อผิดพลาดของระบบและแจ้งไปยังผู้พัฒนา OrangeHRM เพื่อให้ดำเนินการแก้ไขต่อไป

วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2554

รายชื่อสมาชิกกลุ่ม

รายชื่อสมาชิกกลุ่ม
1.นายจรูญศักดิ์ ทาเวียง 51050564
2.นายธนิศร์ ชื่นอุระจิตร 51050597
3.นายภาณุ กัมปนากร 51050636
4.นายวสุ คูดิษฐาเลิศ 51050650
5.นายศิขริน จินพละ 51050657
6.นายสุกฤษฎิ์ รวยป้อม 51050675
7.นางสาวปุยฝ้าย หอมอบ 52050751
8.นายภพสรรค์ ไพรสุวรรณา 52050764
9.นางสาวกมลภัทร ปิติปัญญากุล 51050547
10.นายชาตการุณ สุขสำราญ 51050579
11.นายณัฐกิตติ์ ศุภฤทธิ์ 51050584
12.นางสาวอมราภรณ์ เมธาสถิตย์สุข 51050684
13.นายอาทิตย์ อดุลย์ธีรโสภณ 51050690
14.นาย ณัฐวุฒิ อ่างทอง 51050586

วันพุธที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Sugar CRM


       วันนี้เรามารู้จักกับ Enterprise Framework ที่เรียกว่า Sugar CRM ว่ามันคืออะไรกัน

Sugar CRM เป็นระบบบริหารจัดการลูกค้า ที่มีเครื่องมือในการบริหารงานเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลต่างๆของลูกค้าอย่างเป็นระบบและยังเป็นตัวเชื่อมในการประสานงานลูกค้าของพนักงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบ เป็น ระบบสารสนเทศ ที่สามารถใช้งานได้ง่าย เช่น การจดบันทึกข้อมูลของคนในกลุ่มเป้าหมาย , การแปลงจากกลุ่มเป้าหมายมาเป็นลูกค้า หรือ การช่วยเตือนให้ติดต่อลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย เป็นต้น

         สำหรับ Sugar CRM ประเภท open source จะมีฟังก์ชั่นในการทำงานซึ่งแบ่งตามบทบาทของผู้ใช้งานได้ 3 ด้านคือ

1.   Sales            ช่วยให้ฝ่ายขายทำงานได้สะดวกสบายขึ้น เช่น การบันทึกข้อมูลของ
                          กลุ่มเป้าหมาย , การแจ้งเตือนการนัดหมายกับลูกค้า ฯลฯ

2.  Support        ช่วยในการจัดบันทึกปัญหาของลูกค้าและวิธีการช่วยแก้ไขปัญหาและ
                         การติดตามผลในการแก้ไขปัญหาต่างๆ

3.  Marketing    ช่วยนำเสนอข้อมูลการขายของผลิตภัณฑ์และปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น




ข้อดีของ Sugar CRM

     -ปรับแต่งง่าย เนื่องจาก Sugar CRM อยู่บนพื้นฐานของสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์ระบบเปิด (Open Source Architecture) จึงทำให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งและเชื่อมต่อได้ง่าย
     -เพิ่มเติมความสามารถได้ ด้วยโมดูลส่วนขยาย (Extension) ทำให้ Sugar CRM สามารถเพิ่มเติมความสามารถ เช่น Advanced SQL Reporting, Advanced Project Mangement, Offline Client Sync 
     -ราคาไม่แพง ด้วยปัจจัยทางด้านราคาที่สมเหตุสมผล ทำให้ Sugar CRM เป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับงบประมาณขององค์กรหรือบริษัท
    -การสนับสนุนลูกค้า โดยที่ทาง Sugar CRM มีการฝึกอบรมให้กับลูกค้า มีเอกสารคู่มือที่ดีและมีชุมชนผู้ใช้ 
     
ข้อเสียของ Sugar CRM

     - Sugar CRM เหมาะกับองค์กรขนาดเล็กถึงกลางเท่านั้น
     -เครื่องมือในการบริหารจัดการ (System Administration Tools) ยังคงจำกัดและไม่เพียงพอ เช่น เครื่องมือในการผสานเรคคอร์ดลูกค้า (Account Merges) การจัดการสิทธิการใช้งานที่ยืดหยุ่น (Flexible Security Model) และการแก้ไขข้อมูลจำนวนมาก (Mass Modification)
     -รายงานไปป์ไลน์ (Pipe-line) การพยากรณ์ (Forecast) และรายงานอื่นๆ ยังไม่ได้มาตรฐาน
     -ซอฟต์แวร์ระบบเปิด (Open Source) ยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย จากองค์กรส่วนใหญ่